อีกหนึ่งปัญหาที่เจ้าของที่ดินตามต่างจังหวัดหรือชนบท มักจะพบเจอกันอยู่อย่างเสมอ และจัดเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่หาทางแก้ค่อนข้างยาก อีกทั้งยังเป็นไปด้วยความลำบากใจ นั่นก็คือซื้อที่ดินไว้แล้วมีผู้บุกรุกเข้ามาอยู่อาศัยหรือประกอบกิจกรรมทางการเกษตรกรรม หรือปลูกที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ซึ่งที่ดินเป็นอีกหนึ่งทรัพย์สินที่มีค่าเป็นอย่างมากและไม่ได้ซื้อหากันได้ง่าย ๆ นอกจากจะมีเงินที่พร้อมนำมาซื้อที่ดินนั้นแล้ว ในขณะเดียวกันก็ยังจะต้องเป็นที่ดินที่มีทำเลดี สามารถนำไปต่อยอดในการประกอบธุรกิจ หรือทำกิจการอันใดได้ในอนาคต หรือแม้แต่การนำมาปลูกสร้างบ้านเองก็จะต้องมีทิศทางที่ดี เหมาะสม ดังนั้นการเจอปัญหาที่ไม่พึงประสงค์อย่างการมีผู้บุกรุกเป็นปัญหาที่สร้างความปวดหัวให้กับเจ้าของที่ตัวจริงได้ค่อนข้างมาก ดังนั้น ในบทความนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีแก้ไขให้คุณได้ทำความเข้าใจกัน

 

ตรวจสอบโฉนด

ในกรณีที่คุณพบปัญหาที่ดินของคุณ ถูกบุกรุกรุกล้ำอาณาเขตความเป็นส่วนตัว มีการจัดตั้งสถานที่อยู่อาศัยหรือที่พักพิงตลอดจนใช้ในการปลูกต้นไม้อันใดต่าง ๆ ที่เข้าข่ายบุกรุก ก่อนอื่นให้คุณค้นหาเอกสารเสียก่อนว่า ที่ดินของคุณแปลงนี้มีโฉนดหรือไม่ ในกรณีที่ที่ดินมีโฉนดและชื่อเป็นของคุณ คราวนี้ต้องมาดูระยะเวลาว่าผู้ที่บุกรุกครอบครองพื้นที่นี้เกิน 10 ปีแล้วหรือยัง ในกรณีนี้เรียกว่าการครอบครองปรปักษ์ ในกรณีที่ยังครอบครองไม่ถึง 10 ปี คุณสามารถยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขับไล่ให้เขาออกจากพื้นที่ที่ดินของคุณได้ทันที แต่ในอีกกรณีหนึ่ง นั่นก็คือ ที่ดินของคุณนั้นไม่มีโฉนดแต่มีใบเอกสารสิทธิ์ซึ่งเป็นเอกสารที่แสดงให้เห็นว่า คุณเป็นเจ้าของที่ดินตรงนี้จริง ๆ ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการต่อสู้ที่ยืดยาว ถ้าผู้ที่เข้ามาบุกรุกอาศัยอยู่เกิน 1 ปีแล้ว จะถือว่าเขามีสิทธิ์ครอบครองที่ดินของคุณได้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นในกรณีใด ก็ต้องขอให้คุณไปแจ้งความข้อหาพบผู้บุกรุกที่สถานีตำรวจเอาไว้เสียก่อน หลังจากนั้นถ้าผู้บุกรุกต้องการต่อสู้ก็จะเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องต่อชั้นศาลต่อไป

 

ท้ายที่สุดแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลว่าจะมีการพิพากษาไปในทิศทางใด และหลักการพื้นฐานเบื้องต้นในกรณีที่คุณเจอผู้ที่บุกรุกที่ดินของคุณ ขอให้ไปแจ้งความต่อตำรวจข้อหาบุกรุกที่ดินเอาไว้ก่อนเลย เพื่อที่จะให้ทางตำรวจเข้ามาจัดการดูแล แต่ถ้าเขายังไม่ยอมย้ายออกจากที่ดิน กรณีนี้ก็จะต้องเดินหน้าฟ้องร้องเข้าสู่กระบวนการชั้นศาล มีการตัดสินและยื่นหลักฐานต่าง ๆ อันเป็นไปตามกฎหมาย โดยที่คุณไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายค่ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ผู้บุกรุกได้ก่อสร้างเอาไว้ ถ้าไม่มีคำสั่งศาล

 

ข้อควรรู้ของที่ดินที่มีผู้บุกรุก

  • คุณสามารถดำเนินคดีที่ดินที่มีผู้บุกรุก ได้ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง
  • กรณีที่เป็นคดีอาญาต้องแจ้งภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ทราบว่ามีการบุกรุก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นวันที่ช่างมาวัดรังวัด
  • กรณีที่เป็นคดีอาญาแต่เลยกำหนดแจ้ง กรณีนี้ก็ต้องฟ้องศาลเป็นคดีแพ่งต่อไป
  • ความผิดฐานบุกรุกตาม กม.อาญามาตรา362 ต้องมีการแจ้งความร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนครับ
  • กรณีที่เป็นการบุกรุกเข้าครอบครองที่ดินทั้งกลางวันและกลางคืน จัดเป็นการกระทำผิดที่เข้าข่ายมาตรา365 (3) โดยเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ ใช้อายุความ 10 ตาม ม.95 (3)

 

  • อ้างอิงตามประมวลกฎหมายอาญา ม.363 ผู้ใดที่ถืออสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

และนี่ก็คือแนวทางความรู้ดี ๆ ที่ใช้หลักทางกฎหมายเข้าสู้อย่างถูกต้อง ในกรณีที่คุณพบผู้ที่บุกรุกที่ดินของคุณ อย่าพึ่งรีบทำการรื้อถอน เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาทางกฎหมายตามมาอีกมากมาย อันดับแรกให้ค้นหาเอกสารเพื่อนำมายืนยันสิทธิ์ตัวตนความเป็นเจ้าของ หลังจากนั้นจึงค่อยติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือติดต่อฟ้องศาลต่อไป และที่สำคัญคืออย่าพึ่งเร่งทำการรื้อถอนอันใดทั้งสิ้น หากยังไม่มั่นใจหรือยังไม่ได้มีการไกล่เกลี่ยกันก่อน

We use cookies to give you the best experience.