ปัจจุบันหลายคนหันมาทำอาชีพค้าขาย เพราะเป็นการเริ่มต้นทำธุรกิจอย่างหนึ่งที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง สำหรับคนที่ไม่อยากเปิดหน้าร้านเป็นของตัวเอง ก็มักจะมองหา พื้นที่ให้เช่า เพื่อทำการค้าขายสินค้าแทน เพราะนอกจากจะสะดวกแล้ว ยังช่วยเซฟเงินทุนได้ด้วย แต่การจะเช่าพื้นที่เพื่อขายสินค้า ก็มีหลายเรื่องที่จะต้องคำนึงถึง เพื่อให้ธุรกิจของเรานั้นประสบความสำเร็จได้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
1. เลือกสถานที่ขายสินค้า
ก่อนอื่นเลยต้องดูก่อนว่าสินค้าของเราที่จะนำมาขายนั้น เหมาะกับคนกลุ่มใด และสถานที่ที่เหมาะสมนั้นคือสถานที่แบบไหน เพราะสถานที่ที่แตกต่างกันก็ย่อมมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของเราต่างกันออกไปด้วย อาทิ ห้างสรรพสินค้า กลุ่มเป้าหมายก็อาจจะมีกำลังซื้อมากกว่า หรือตลาดนัดต่าง ๆ ก็อาจจะเหมาะกับกลุ่มวัยรุ่นมากกว่า เป็นต้น ดังนั้น ผู้ประกอบการก็ต้องเลือกสถานที่ขายสินค้า ให้เหมาะสมทั้งกับสินค้าของตนเองและกลุ่มเป้าหมายด้วย
2. ทำเลที่ตั้ง
เมื่อเลือกสถานที่ได้แล้วว่าเราจะวางขายสินค้าที่ไหน สิ่งต่อไปที่ควรจะต้องคำนึงถึงก็คือ ทำเลทีตั้ง เพราะ พื้นที่ให้เช่า นั้น มีมากมายหลายแห่งให้เลือก และทำเลที่ตั้งคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจค้าขายของเราเป็นไปได้ด้วยดี ควรเลือกทำเลที่เข้าถึงชุมชนได้ง่าย หรือมีผู้คนอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นเยอะ เพื่อเพิ่มจำนวนกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น รวมถึงทำเลที่ตั้งของร้านค้าที่อยู่ภายในสถานที่แห่งเดียวกัน ก็สามารถสร้างความแตกต่างของยอดขายและรายได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ควรเลือกพื้นที่ที่มองเห็นชัดเจน ถ้าเป็นในห้างสรรพสินค้าก็ควรเลือกบริเวณที่ผู้คนเดินกันเยอะ อย่าเลือกใกล้ประตูทางออกหรือมุมอับของห้าง หรือถ้าเป็นตลาดนัด ก็ควรเลือกโซนที่คนเดินผ่านเยอะ อยู่ต้น ๆ หรือกลางๆ พยายามอย่าเลือกท้ายตลาดหรือมุมอับ เพื่อจะได้เป็นจุดเด่นให้ลูกค้าที่เดินผ่านไปมาได้เห็นร้านเราได้ง่ายขึ้น เพราะทำเลที่ตั้งมีผลต่อยอดขายเป็นอย่างมาก
3. ขนาดพื้นที่ร้าน
ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องคำนึงถึง เพราะจำนวนพื้นที่ก็มีผลในการจัดร้าน โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เลือกห้างสรรพสินค้าเป็นสถานที่ขายของ เพราะจะมีขนาด พื้นที่ให้เช่า ที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ห้างสรรพสินค้าจะกำหนด โดยวัดเป็นตารางเมตร ผู้ประกอบการต้องพิจารณาถึงรูปแบบของธุรกิจและสินค้าของเราว่ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้พื้นที่ร้านขนาดไหน สินค้ามีจำนวนมากหรือไม่ เพื่อที่จะได้เลือกเช่าขนาดพื้นที่ได้เหมาะสม ทั้งยังควรเอามาคำนวณถึงจุดคุ้มทุนด้วย เพราะบางพื้นที่มีขนาดที่เล็กแต่ค่าเช่าแพงกว่า ถ้าเทียบกับพื้นที่ที่มีเนื้อที่เยอะกว่า อาจเป็นเพราะอยู่ในทำเลที่ดีกว่านั่นเอง ดังนั้น เราต้องคำนวณดูว่าเลือกขนาดพื้นที่แบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน
4. เวลาเปิดปิดของสถานที่
ในเรื่องนี้จะต้องพิจารณาจากสินค้าของเราเป็นสำคัญ ว่าเราขายอะไร และสินค้านั้นเหมาะสำหรับขายในเวลาใดมากกว่ากัน รวมถึงผู้คนจะมาเดินซื้อสินค้าในช่วงเวลาใดด้วย ถ้าหากเป็นห้างสรรพสินค้า ก็จะมีเวลาเปิดปิดชัดเจน และเปิดทุกวัน ก็จะทำให้เรามีโอกาสในการขายมากขึ้น แต่หากว่าเป็นตลาดนัด โดยเฉพาะตลาดนัดกลางคืน ก็จะมีช่วงเวลาในการขายที่สั้นกว่า รวมถึงมักจะไม่ได้ให้เปิดขายได้ทุกวัน เพราะฉะนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องวางแผนในเรื่องของการขายให้สอดคล้องกับวันและเวลาเปิดปิดของสถานที่ที่เราต้องการไปขายสินค้านั้นด้วย
5. ค่าเช่า
เป็นอีกสิ่งที่ไม่คำนึงถึงไม่ได้เลย ยิ่งหากว่าเรามีเงินทุนจำกัด การมองหา พื้นที่ให้เช่า ในราคาที่เราพอจ่ายไหวก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะได้ไม่ไปรบกวนเงินทุนของเรามากนัก เพราะนอกจากค่าเช่าแล้ว ยังต้องมีค่าเงินประกันต่าง ๆ ที่เราต้องจ่ายในการทำสัญญาเช่าพื้นที่อีกด้วย ในการพิจารณาเบื้องต้นว่าค่าเช่าที่ไหนคุ้มค่านั้น อาจจะเป็นไปได้ยากสักหน่อย เพราะเรายังไม่ได้ทดลองขายสินค้า และยังไม่รู้ว่ากำไรที่ได้จะคุ้มทุนแค่ไหน อาจจะต้องลองขายไปก่อนสัก 3 เดือน ถึงจะคำนวณหากำไรได้ แต่หากว่ามีเงินทุนที่จำกัดจริง ๆ และไม่สามารถรอดูได้นานขนาดนั้น ก็อาจจะลองคำนวณคร่าว ๆ ดูว่ายอดขายสินค้าในหนึ่งวันเราสามารถขายได้เท่าไหร่ หักต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว ก็ลองนำมาลบกับค่าเช่าที่ต้องจ่ายในแต่ละวัน แล้วดูว่าเราเหลือกำไรเท่าไหร่ หากว่าดูแล้วว่ากำไรน้อยหรือติดลบ ก็อาจลองพิจารณาหาที่เช่าใหม่ที่เหมาะสมกับเงินทุนของเราจะดีกว่า
6. ประเมินกลุ่มลูกค้า
สุดท้ายอย่าลืมพิจารณากลุ่มลูกค้าของเราด้วยว่า เป็นลูกค้ากลุ่มไหน เพราะหากว่าเป็นในห้างสรรพสินค้า ก็มักจะเป็นกลุ่มผู้ลูกค้าที่มีกำลังซื้อเสียเป็นส่วนใหญ่ อาจจะต้องเลือกสินค้าที่นำมาขายเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดีและราคาสมเหตุสมผล แต่หากว่าเป็นตลาดนัด กลุ่มลูกค้าก็จะมีกำลังซื้อที่น้อยกว่า และชอบสินค้าที่มีราคาถูก คุณภาพกลาง ๆ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องประเมินกลุ่มลูกค้าควบคู่ไปกับการเลือกสถานที่ขายสินค้าด้วย เพื่อจะได้เหมาะสมกับสินค้าที่เราต้องการจะขาย และทำให้เราสามารถดำเนินธุรกิจของเราไปได้อย่างราบรื่น เพราะหากว่าเราเอาสินค้าคุณภาพดีแต่ราคาแพงไปขายที่ตลาดนัด ก็อาจจะทำให้เราขายสินค้านั้นได้ยาก
การจะเลือกหา พื้นที่ให้เช่า เพื่อนำมาเป็นสถานที่ประกอบธุรกิจค้าขายของเรานั้น ก็ต้องคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ให้ดีเสียก่อน เพื่อที่จะสามารถวางแผนการการค้าขายของเรา รวมถึงหาจุดคุ้มทุนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ยิ่งเราวางแผนล่วงหน้าได้ดีเท่าไหร่ ธุรกิจของเราก็จะมีปัญหาได้น้อยเท่านั้น เลือกสถานที่ให้เหมาะสม ทั้งกับสินค้าที่ต้องการจะขายและเงินทุนของเราที่มี เพื่อให้ธุรกิจของเรานั้นประสบความสำเร็จได้